Breaking News

รมว.เสริมศักดิ์ ร่วมเป็นสักขีพยาน MOU การพัฒนาและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ด้วยงานวิจัยการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์

รมว.เสริมศักดิ์ ร่วมเป็นสักขีพยาน MOU การพัฒนาและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ด้วยงานวิจัยการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์

วันที่ 30 พฤษภาคม 2567 เวลา 10.30 น. นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้เกียรติเป็นสักขีพยานพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การพัฒนาและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ด้วยงานวิจัยการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์

ระหว่าง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริม วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) หน่วยบริหารและจัดการทุน ด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) และสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) โดยมี นางสาวเพ็ญพิสุทธิ์ จินตโสภณ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “นโยบายการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทย ภายใต้การบูรณาการ การทำงานหน่วยงานภาครัฐกับเอกชน” พร้อมด้วยสมาชิกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยวและสื่อมวลชน เข้าร่วม ณ โรงแรมเอส 31 สุขุมวิท กรุงเทพฯ

รมว.เสริมศักดิ์ กล่าวว่า ” ตามที่รัฐบาล ได้ตั้งเป้ารายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะหน่วยงานหลัก
ในการขับเคลื่อนและพัฒนาการท่องเที่ยวของประเทศ มุ่งมั่นและพร้อมที่จะสานต่อและเดินหน้านโยบายด้านการท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างให้เกิดการเพิ่มรายได้ ทั้งในด้านการเพิ่มค่าใช้จ่ายต่อหัว การเพิ่มระยะเวลาพำนัก การเดินทางซ้ำ
เพื่อยกระดับทางเศรษฐกิจการท่องเที่ยวได้อย่างแท้จริง
โดยในระยะแรกที่ต้องเร่งดำเนินการ คือ การทำตลาดเชิงรุก
เพื่อเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีคุณภาพ ด้วยการเพิ่มวีซ่าฟรี
เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ กระตุ้นการท่องเที่ยว พัฒนาสินค้า เส้นทาง รูปแบบการท่องเที่ยวใหม่ ๆ ที่ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายศักยภาพ และทำให้เกิดการท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เกิดการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวทั้งเมืองหลักและเมืองน่าเที่ยว รวมไปถึงการดึงงานมหกรรมระดับนานาชาติ
งานเทศกาลระดับโลกเข้ามาจัดในประเทศไทย ทั้งนี้ จะต้องไม่ลืมเรื่องดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ที่จะมีส่วนสำคัญ
ในการสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวเลือกเดินทางมาประเทศไทย
ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อให้การท่องเที่ยวของเรามีบทบาทและความสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศมากขึ้น จะมีการประกาศให้ปี 2568 เป็นปีท่องเที่ยวไทย เพื่อให้การท่องเที่ยวเป็นวาระแห่งชาติ ที่ทุกคนให้ความสนใจและมีส่วนร่วมจากทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ให้ได้มากที่สุด
นโยบายทั้งหมดที่ผมได้กล่าวมา ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกท่าน โดยเฉพาะทุกท่านในที่นี้ ที่เป็นกำลังและพลังสำคัญ
ที่จะช่วยกันผลักดันและขับเคลื่อนนโยบายให้เกิดขึ้นได้จริง ต่อไปเราจะต้องทำงานร่วมกันมากขึ้น เราจะร่วมเดินหน้าและทำให้การท่องเที่ยวของไทยเป็นหมุดหมายด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ”